วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2012
วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2012
วันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2012:
พระเยซูตรัสว่า “ประชาชนของข้า ผู้ที่จะเข้าสู่สวรรค์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของข้าพระองค์ แต่พวกเขายังจำเป็นต้องถูกทำความสะอาดในชีวิตนี้หรือในสุคติภาวนา เมื่อท่านทำหม้อดิน ท่านจะต้องมีรูปแบบการเขียนและหลากหลายของวัสดุที่ผ่าผลานจากไฟ เมื่อท่านเสียชีวิตไปแล้ว ท่านอาจยังจำเป็นต้องแก้ตัวเองเพื่อบรรเทาสิทธิ์ของพวกเธอนั้น สุคติภาวนา คือสถานที่ซึ่งวิญญาณของข้าได้รับการประทานว่าหนึ่งวันจะอยู่ในสวรรค์ แต่พวกเขาจะใช้เวลาต่างๆ ในการถูกทำความสะอาดด้วยไฟหรือเวลา จนกระทั่งพวกเธอนั้นมีคุณสมบัติที่เหมาะสมเพื่อเข้าสู่สวรรค์ ในพระสุภาษิต ข้าพระองค์กำลังแนะนำประชาชนไม่ใช่เพียงจะรักษาการปฏิบัติกันเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องรักษาความคิดของตัวเองด้วย ข้าเห็นใจในหัวใจที่ท่านมีความตั้งใจทั้งสำหรับการกระทำและความคิดของท่าน ห้ามอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ที่ท่านปฏิบัติกรรมเพื่อแสดงออก แต่ลึก ๆ ในใจ ท่านมีแนวโน้มตรงข้ามที่อาจเป็นบาป สัญญาว่าทำตามความหมายของ ‘ใช่’ เมื่อคุณต้องการว่า ‘ใช่’ และไม่เมื่อคุณต้องการว่านั้น ‘ไม่’ ความคิดอื่นๆ อาจจะทำให้ท่านผิดพลาดไปในบาป แสดงรักใจอยู่เสมอและข้าพระองค์จะเห็นความตั้งใจของท่าน และประทานผลแก่พวกเธอนี้”
กลุ่มสวดมนต์:
พระเยซูตรัสว่า “ประชาชนของข้า เมื่อคุณมองเห็นรอเซส์ที่บานไฟ้ ทุกต้นมีความพิเศษเป็นของตัวเอง ก็เช่นเดียวกับท่านเห็นสวยงามในการสร้างสิ่งของข้าพระองค์จากพืช พวกเธอนั้นยังสามารถมองเห็นความสง่างามที่แตกต่างกันได้เมื่อคุณมองผู้คนทั้งหลาย ประชาชนของข้าเป็นตัวอันประกอบด้วยรูปแบบและวิญญาณ และทุกอย่างมีสวยงามของตัวเอง ข้าพระองค์ให้ความสามารถแก่พวกเธอนั้นเพื่อที่จะบานในการกระทำดีและรักต่อข้าและผู้อื่น ท่านเป็นสิ่งที่ข้าสร้างขึ้นมา เพื่อให้นำไปสู่สมดุลนี้ในธรรมชาติ ที่ข้าพระองค์ต้องการให้เห็นอยู่ในสังคมของท่าน คุณจะปกครองกันอย่างใกล้ชิดเมื่อพบกับผู้คนที่มีความจำเป็นต่ออาหาร เสื้อผ้า หรือที่อยู่อาศัย เราควรพิจารณาเรื่องแบ่งปันสิ่งที่มีอยู่มากกว่าจะเก็บไว้เพื่อตัวเอง”
พระเยซูตรัสว่า “ประชาชนของข้า ข้าพระองค์ได้ให้แบบอย่างการแต่งงานรักแก่ท่านในอาดัมและเอฟ ความรักเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในสวรรค์ และเพื่อเหตุผลนี้ ทั้งพระบัญญัติทั้งหมดของข้าพระองค์ก็ถูกตั้งขึ้นตามความรักต่อพระเจ้าและความรักต่อผู้อื่น ข้าพระองค์ได้ทำให้ท่านเป็นชายหรือหญิง เพื่อการสืบทอดมนุษย์ และจากแต่งงานระหว่างชายกับหญิง ท่านจะมีลูกในสิ่งแวดล้อมที่รักกัน แผนนี้ของแต่งงานควรรักษาเป็นหน่วยย่อยของสังคมของท่าน ที่ทำให้คนอยู่ด้วยกันในครอบครัว”
เยซูพูดว่า “ประชาชนของข้า ในวัยเด็กแรก ๆ ของบุตรเขาหรือเธอจะตามหาความรักจากบิดามารดา และความสัมพันธ์ที่ถูกต้องสามารถปั้นลักษณะตัวของเด็กได้ บิดามารดาต้องเลี้ยงและสอนลูก ๆ ของพวกเขาทั้งสิ่งที่จำเป็นต่อการอยู่รอดในชีวิตและจิตวิญญาณ บิดามารดาควรรับผิดชอบให้กับความเชื่อของพวกเขาเพื่อว่าลูก ๆ จะสามารถรักและสേร็จข้าได้ ถ้าบุตรไม่ได้รับความรักที่เพียงพอ นี่จะทำให้นักเรียนมีปัญหาทางสังคมของท่าน ความรักเป็นความสัมพันธ์ส่วนบุคลิกที่บิดามารดาสามารถนำมาให้กับลูก ๆ ของพวกเขา และเด็กๆ จะทราบเมื่อนั้นเป็นจริงใจและมีหัวใจ” ครอบครัวที่รักกันจะสุขสมหวังมากขึ้นในความอยู่ด้วยกันของท่านมากกว่าที่จะมีการแยกระดับ
เยซูพูดว่า “ประชาชนของข้า บันทึกพระวรสารของข้าประสงค์ให้เห็นคุณหลายวิธีที่ข้ายืมความรักในการกระทำของข้า คุณจะเห็นว่าข่ายิ่งรักบิดาแห่งฟากฟ้าและจิตอันศักดิ์สิทธิ์ คุณได้เห็นว่า ข้าปกป้องและสอนทูตผู้นับถือจากความรัก คุณได้เห็นว่า ขายิ่งรักลาซารัสและครอบครัวของเขามากจนข้าไหล่ตามการเสียชีวิตของเขา และต่อมาให้กำเนิดใหม่จากคนตาย มากที่สุด ข้าจึงแสดงความรักทั้งหมดแก่ท่านเมื่อข้ายอมรับโทษและถูกตราออกไปบนกางเขนเพื่อว่าการไหล่เลือดของข้าเป็นการชำระหนี้สู่จิตวิญญาณจากปาฏิหาริย์ ในที่สุด ข้าก็รู้ทุกความเจ็บปวดและความยุ่งเหยิงในชีวิตที่แต่ละคนกำลังผ่านไปอยู่ ข้าเพียงขอให้ท่านแสดงความรักต่อข้ายกลับมาโดยเลียนแบบการใช้ชีพของข้าที่ศักดิ์สิทธิ์”
เยซูพูดว่า “ประชาชนของข้า คุณจะเห็นความรักครั้งแรกเมื่อบิดามารดาเอื้ออำนวยเพื่อให้กับลูก ๆ ของตน เมื่อคุณโตขึ้น คุณจะเห็นคนที่มีความจำเป็นในสิ่งสำคัญของชีวิต นี่คือการอยากทำดีต่อผู้อื่นจากความรักที่คุณสามารถแบ่งปันอาหาร แบ่งเสื้อผ้า และบางครั้งให้คนหาแหล่งอยู่ นี้เป็นความรักแบบพี่น้องเมื่อคุณต้องการช่วยเหลือคนในปัญหาของเขา คุณจะรู้สึกถึงความรักมากขึ้นจากแบ่งปันเงินของท่าน ทักษะ และศรัทธามากกว่าการทำดีเพียงต่อตัวเอง”
เยซูพูดว่า “ประชาชนของข้า การสวดมนต์ของคุณแก่ข้าคือวิธีหนึ่งในการแสดงความรักต่อข้า โดยใช้ชีวิตเป็นการสวดมนต์อย่างไม่หยุด คุณจะได้อยู่ด้วยกันกับข้าในทุกสิ่งที่ทำจากความรัก คุณก็สามารถแสดงความรักแก่ผู้อื่นโดยสวดมนต์เพื่อพวกเขาในงานของพวกเขา โรคภัย และแม้แต่การตายโดยสวดมนต์เพื่อจิตวิญญาณของพวกเขา ความรักเป็นทางที่งามในการแสดงความรู้สึกต่อข้าและผู้อื่น ขอเรียกร้องช่วยเหลือและพระคุณจากข้าทั้งหมดในทุกสิ่งต่าง ๆ ของชีวิต”
เจสัสพูดว่า “ลูกของฉัน ความจริงแล้ว ผมได้ให้ความเห็นแก่เธอเกี่ยวกับฟ้าอยู่หลายครั้ง เธอดำเนินนัยว่าประทับใจในการเป็นหนึ่งเดียวกันกับผมด้วยสันติและรักอย่างสมบูรณ์ ความปรารถนาแห่งความสุขของเธอต่อผมนั้นงดงามและแรงบันดาลใจจนทำให้ยากลำบากที่จะแสดงออกมาในคำพูด เธอยังไม่ต้องการไป แต่ผมประสงค์ว่าจะแบ่งปันประสบการณ์นี้กับผู้อื่น การอยู่ร่วมกันด้วยความรักของพระเจ้าที่รักเธอนั้นดีกว่าแม้แต่จะคิดถึงที่จะอยู่ในนรกแห่งเกลียดชัง ถ้าเธอยืนยันว่าต้องการอยู่กับผมในฟ้า ให้แสดงความรักต่อผมและความรักของผมนั้นแก่ผู้อื่น”